สูตรอาหารไทย

สูตรอาหารไทย

สูตรอาหารไทย : ต้มยำกุ้ง

          ต้มยำกุ้ง ถือเป็นอาหารที่เป็นที่นิยมมากและยังติด 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างชาติชอบรับประทาน นอกจากนั้นจากการสำรวจข้อมูลของเว็บไซต์ cnngo.com ที่จัดอันดับสุดยอดอาหาร 50 เมนูทั่วโลกในปี 2011 ต้มยำกุ้งของไทยยังติดอันดับ 8 ด้วย ถือว่าเป็นอาหารที่ไม่ธรรมดาจริงๆ มีรสชาติเป็นที่นิยมระดับโลก ด้วยส่วนผสมของสมุนไพรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น (ตะไคร้, ใบมะกรูด, และอื่นๆ) ทำให้ต้มยำกุ้งเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีจานหนึ่งเลยทีเดียว รสชาติดั้งเดิมจะออกเผ็ดร้อนและเปรียว ผู้ที่ไม่ชอบรสเผ็ด อาจต้องปรับลดปริมาณพริกลงในขณะทำการปรุงรส

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* กุ้งขนาดกลาง 6 ตัว
* ตะไคร้ 1 ต้น, หั่นเป็นท่อนขนาด 2" และทุบพอแหลก
* เห็ดฟางหั่นครึ่ง 12 ดอก
* พริกขี้หนู 3-5 เม็ด, บุบพอแตก
* ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
* น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
* น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย (หรือน้ำเปล่า)
* ผักชี สำหรับโรยหน้า
* น้ำพรกเผา (กรณีต้องการทำเป็นต้มยำน้ำข้น)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ล้างทำความสะอาดกุ้ง แกะเปลือกออกเหลือแต่หาง พักไว้ (ถ้าไม่มีน้ำซุปไก่ สามารถเอาหัวกุ้ง และเปลือกที่แกะ ไปต้มทำเป็น น้ำซุป จะทำให้ต้มยำมีรสกลมกล่อมขึ้น)
2. ตั้งน้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) ในหม้อขนาดกลาง ใส่ตะไคร้ลงไปต้ม พอน้ำซุปเริ่มเดือด ใส่กุ้งและเห็ดฟาง ต้มต่อไปอีกสักพักจนกุ้งเกือบสุก จึงปิดไฟ ยกหม้อลง (อย่าให้กุ้งสุกมาก เนื้อจะแข็งกระด้าง ไม่อร่อย)
3. ปรุงรสด้วยพริก,น้ำมะนาวและ น้ำปลา จากนั้นจึงฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป คลุกให้ทั่ว ชิมรสให้พอดี (ถ้าต้องการทำเป็นต้มยำน้ำข้น ก็ใส่น้ำพริกเผาลงไปด้วย)

4. ตักต้มยำใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

สูตรอาหารไทย : ผัดกะเพราไก่

          ผัดกะเพราถือเป็นหนึ่งในอาหารฟาสต์ฟู๊ดหรืออาหารจานด่วนยอดฮิตของคนไทย ใบกะเพรา (Holy basil) มีประโยชน์ มากมาย มีเบต้าแคโรทีน, เหล็ก, ฟอสฟอรัส และวิตามีนซีสูง มีสรรพคุณช่วยไล่ลมในกระเพาะ แก้ท้องอื่ด จุกเสียด กลิ่นใบกะเพรามีลักษณะเฉพาะ นิยมนำมาประกอบอาหารเพื่อดับคาวเนื้อสัตว์ สำหรับเมนูกะเพรา สามารถเปลี่ยนวัตถุดิบ ได้หลายอย่าง อาจเป็นหมู, ไก่, กุ้ง, หมึก เป็นต้น เสริฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ และไข่ดาว อร่อยยิ่งนัก

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* เนื้อไก่ 450 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีำคำ)
* กระเทียม 5 กลีบ (สับให้ละเอียด)
* หัวหอมใหญ่ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นเป็นชิ้นบางๆ)
* น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
* ซิอิ๊วดำ 2 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ใบกะเพรา 1 ถ้วยตวง
* พริก 7 เม็ด (ทุบพอแหลกและสับหยาบๆ)
* พริกไทยป่น
หมายเหตุ : สามารถใส่ผักอื่นๆลงไปผัดร่วมด้วยเช่น แครอท, ถั่วฝัก, ข้าวโพดอ่อน เป็นต้น

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งน้ำมันในกระทะจนร้อน จากนั้นใส่กระเทียมและผัด 5-10 วินาที ใส่หอมใหญ่ และผัดต่อไปอีกสักพักจนกลิ่นเริ่มหอม ใส่เนื้อไก่ลงต่อและผัดจนเนื้อไก่สุกทั่ว
2. ใส่พริกและซิอิ๊วดำลงไปในกระทะ ผัดต่อไปอีก 15-20 วินาที
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และใส่ใบกะเพราลงไปในกระทะ ปิดไฟจากนั้นผัดให้กะเพราผสมกับเนื้อไก่่่จนทั่ว
4. ตักกะเพราใส่จาน โรยหน้าด้วยพริกไทย เสิรฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ในบางครั้งไข่เจียวหรือไข่ดาวมักจะเสิรฟร่วมด้วย

สูตรอาหารไทย : แกงเขียวหวานไก่

          แกงเขียวหวานไก่ เป็นอาหารที่เป็นที่นิยมมาก โดยติดอันดับ 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างขาติชอบรับประทาน สีเขียวของแกงเขียวหวานได้มาจากน้ำพริกแกงเขียวหวาน ซึ่งใช้พริกสดสีเขียวเป็นส่วนผสม รสชาติกลมกล่อม ระดับความเผ็ดปรับลดได้ ตามปริมาณเครื่องแกงที่ใส่ลงไป เนื่องจากเป็นแกงกะทิ จึงควรรับประทานแต่พอดี ไม่อย่างนั้นจะมีผลต่อน้ำหนักตัวได้ แกงเขียวหวานนิยมรับประทานคู่กับขนมจีน หรือจะทานกับข้าวสวยเป็นกับข้าวก็ได้

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* เนื้อไก่ 350 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก พอดีคำ)
* กะทิ 1 1/4 ถ้วยตวง
* ใบโหระพา 1/4 ถ้วยตวง
* มะเขือเปราะ 2 ลูก (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
* น้ำุซุปไก่ 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำตาลทรายธรรมดา)
* น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
* พริกชี้ฟ้าแดง 2 เม็ด (หั่นเฉียง)
* ใบมะกรูด 4 ใบ

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งกะทิ 1/2 ถ้วยตวง (กระทิส่วนที่เหลือไว้ค่อยใช้ในขั้นตอนต่อไป) บนกระทะจนร้อน (ใช้ไฟปานกลาง) คนจนกระทิเดือดประมาณ 3 - 5 นาที จากนั้นใส่เครื่องแกงเขียวหวานลงไปผัดกับกระทิสักพักจนน้ำกระทิงวดลง จึงเทส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อใหญ่
2. นำหม้อใบใหญ่ตั้งไฟปานกลาง ใส่เนื้อไก่และคนประมาณ 2 นาที จากนั้นใส่น้ำปลา, น้ำตาล คนต่อไปอีก 1 นาที ใส่มะเขือเปราะที่หั่นไว้แล้ว ใส่น้ำกระทิที่เหลือและใส่น้ำซุปไก่ ต้มต่อไปสักพักจนเนื้อไก่เริ่มสุก และมะเขือเปราะนิ่ม
3. ใส่ใบมะกรูดและใบโหระพา รอจนเดือด จากนั้นจึงปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเสิรฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ และพริกน้ำปลา
หมายเหตุ : แกงเขียวหวานนอกจากจะนิยมรับประทานกับข้าวสวยแล้ว ยังนิยมทานกับขนมจีนอีกด้วย

สูตรอาหารไทย : ผัดไทยกุ้งสด

          ผัดไทย ถือเป็นอาหารสัญลักษณ์หรือ Signature Dish สำหรับประเทศไทย โดยติด 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างชาติและคนไทยชอบรับประทาน ผัดไทยเป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติ กลมกล่อม ทานง่าย ไม่เผ็ดจนเกินไป จึงเป็นที่นิยม ของคนทั่วไป ผู้ที่ชอบรสจัดก็สามารถปรุงเพิ่ม เมื่อบีบมะนาวลงไปด้วยแล้ว รสชาติอร่อยอย่าบอกใครเชียว โดยทานคู่กับ ถั่วงอกสดและใบกุ้ยช่ายก็จะช่วยเพิ่มผักและเส้นใยในมื้ออาหารได้อีกด้วย

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* กุ้งสด 12 ตัว (ทำความสะอาด, ปอกเปลือก)
* เส้นจันท์ (หรือเส้นเล็ก) 90 กรัม
* ถั่วงอก 50 กรัม
* ใบกุ้ยช่าย 2 ช้อนโต๊ะ (หั่นให้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว)
* น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันหอย 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะขาม 3 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำส้มสายชู)
* น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
* หัวไชโป้ว 2 ช้อนโต๊ะ
* ถั่วลิสงบด 2 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ 2 ฟอง
* พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบรสจัด)
* มะนาว 1/2 ลูก

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. กรณีใช้เส้นชนิดแห้ง ให้นำเส้นไปแช่น้ำธรรมดา (อุณหภูมิห้อง) ประมาณ 30 นาที
2. ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่กุ้งลงไปผัดจนเริ่มสุก ตอกใส่ไข่ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวเขี่ยให้ไข่แดงแตก พอไข่เริ่มสุก ใส่เส้น, น้ำตาล, ถั่วลิสงและ หัวไชโป้ว ผัดจนเส้นเริ่มนุ่มและเครื่องปรุงทั้งหมดผสมกันทั่ว
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมันหอย และน้ำมะขาม (หรือน้ำส้มสายชู) ใส่ถั่วงอก, หัวไชโป้วและพริกป่น (ถ้าชอบรสจัด) ผัดอย่างรวดเร็วให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันทั่ว ตักใส่จาน จัดแต่งด้วยถั่วงอกสด, พริกป่น, และมะนาว ข้างจาน ควรเสิรฟขณะยังร้อน

สูตรอาหารไทย : ส้มตำไทย

          ส้มตำ ถือเป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติของคนไทย นิยมมากขนาดติด 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างชาติและคนไทยชอบรับประทาน และยังดังไปถึงระดับโลกด้วยการติดอันดับที่ 46 จากการสำรวจข้อมูลของเว็บไซต์ cnngo.com ที่จัดอันดับสุดยอดอาหาร 50 เมนูทั่วโลกในปี 2011 เมนูชื่อส้มตำแต่ส่วนผสมหลักมาจากมะละกอดิบ รสชาติปรับได้ตามใจผู้บริโภค ชอบรสเผ็ดใส่พริกเพิ่ม ชอบรสเปรี้ยวใส่มะนาวเพิ่ม เป็นเมนูสุขภาพและเหมาะสำหรับผู้ต้องการลดน้ำหนัก เสริฟส้มตำพร้อมข้าวเหนียวร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใครเชียว

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* มะละกอดิบหั่นฝอย 2 ถ้วยตวง
* แครอทหั่นฝอย 1/2 ถ้วยตวง
* ถั่วฝักยาว 1/2 ถ้วยตวง (หั่นความยาวประมาณ 1" )
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
(ถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำตาลทรายแทนได้)
* น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
* มะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง (หั่นครึ่ง)
* กุ้งแห้ง 1/3 ถ้วยตวง
* ถั่วลิสง 1/4 ถ้วยตวง
* พริกขี้หนู 10 เม็ด (ปรับเพิ่ม/ลด ตามความต้องการ)
* กระเทียมสด 5 กลีบ

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่กระเทียมและพริกลงในครก ใช้สากตำพอแหลก จึงใส่กุ้งแห้งและตำต่อไปอีกสักพัก
2. ใส่น้ำตาลปี๊บ ตำต่อจนน้ำตาลละลาย จึงใส่มะละกอฝอย, แครอทฝอย, ถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ, ถั่วลิสง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว จากนั้นจึงตำต่อจนส่วนผสมทั้งหมดเคล้ากันทั่ว
3. ปรุงรสให้ถูกปากด้วย น้ำตาล, น้ำปลา หรือน้ำมะนาวเพิ่ม รสดั้งเดิมจะมีรสหวาน, เผ็ด และเปรี้ยวพอๆกัน
4. ตักใส่จานและโรยหน้าด้วยถั่วลิสง เสิรฟพร้อมผักสด (กะหล่ำปลี, ถั่วฝักยาว, ผักบุ้งไทย, อื่นๆ) และข้าวเหนียวร้อนๆ

สูตรอาหารไทย : ต้มข่าไก่

          ต้มข่าไก่ เป็นอาหารไทยที่นิยมกันมาก หาทานได้ง่ายตามร้ายขายข้าวแกงทั่วไป โดยติดอันดับ 1 ใน 10 อาหารไทยยอดนิยมที่ชาวต่างขาติและคนไทยชอบรับประทาน ต้มข่า เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบมากมาย โดยเฉพาะข่า (Galangal) มีสรรพคุณช่วย ไล่ลมในกระเพาะอาหาร แก้จุกเสียด นอกจากนั้นยังช่วยแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ำมูกได้อีกด้วย ประโยชน์มากมาย แต่ควรบริโภคในปริมาณพอดี เนื่องจากต้มข่ามีกะทิเป็นส่วนประกอบ ทานมากอาจส่งผลต่อน้ำหนักตัวได้

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* เนื้ออกไก่ 3 ชิ้น (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
* กะทิ 2 ถ้วยตวง
* น้ำซุปไก่ 1 ถ้วยตวง
* ข่าขนาดกลาง 2-3 ชิ้น (ปอกเปลือกและหั่นบางๆ)
* พริกขี้หนูซอยละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนชา
* ใบผักชี 1/2 ถ้วยตวง (สำหรับแต่งหน้า)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ใส่กะทิและน้ำซุปไก่ลงในหม้อและนำไปตั้งไฟร้อนปานกลาง
2. ต้มประมาณ 8 นาที และคนเป็นครั้งคราว
3. ใส่เนื้อไก่และพริกลงไปในหม้อ ต้มต่อไปอีกประมาณ 6 นาที คนต่อไปจนเนื้อไก่สุกดี
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล จากนั้นใส่ผักชีแล้วจึงเสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

สูตรอาหารไทย : ห่อหมกปลา

          ห่อหมกปลา เป็นอาหารไทยที่สามารถหาทานได้ง่าย มีขายทั่วไปตามร้ายข้าวแกง เนื้อปลาสดๆ เมื่อนำไปผสมกับเครื่องแกง , กะทิสด และเครื่องปรุงสมุนไพรแล้ว รสชาติอร่อยยิ่งนัก ภาชนะที่ใส่นึ่งอาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม โดยทั่วไปนิยม ใส่ในกระทงใบตอง บางสูตรมีการใส่เนื้อมะพร้าวเข้าไปด้วย เลยใส่ห่อหมกเข้าไปในลูกมะพร้าวเพื่อนำไปนึ่งก็มี เคล็ดลับ ความอร่อยอยู่ที่เนื้อปลาต้องสด มิเช่นนั้นห่อหมกจะเหม็นคาวเมื่อนึ่งสุก

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* เนื้อปลา 300 กรัม (หั่นเป็นชิ้นบางๆ)
* ใบกะหล่ำปลี 5 ใบ (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
* แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
* ใบผักชี 10 ใบ
* พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด (ซอยเป็นเส้นบางๆ)
* ใบมะกรูดซอยละเอียด 4 ใบ
* น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
* กะทิ 1 กระป๋อง
* ไข่ไก่ 2 ฟอง
* น้ำปลา 1 ช้อนชา
* น้ำตาล 2 ช้อนชา

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. เทกะทิประมาณ 1 ถ้วยตวงลงในชามใบใหญ่ (แยกกะทิ 1/4 ถ้วยตวงไว้ราดหน้าห่อหมก) ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปและคนจนกะทิกับเครื่องแกงผสมกันดี
2. ใส่เนื้อปลาลงในส่วนผสม คนจนกระทั่งเนื้อปลาผสมกันดีกับกะทิและเครื่องแกง เติมไข่ไก่, น้ำปลา และน้ำตาล คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
3. นำใบกะหล่ำปลีที่ซอยไว้แล้วไปลวกในน้ำร้อนประมาณ 3 นาที จากนั้นให้นำไปล้างด้วยน้ำเย็น
4. บีบกะหล่ำให้น้ำออกให้หมด จากนั้นจึงนำไปใส่รองพื้นในถ้วยใบตอง (หรือถ้วยแก้วใบเล็กๆ) เสร็จแล้วตักเครื่องแกงที่ผสมดีแล้วจนเกือบเต็มถ้วย นำไปนึ่งประมาณ 30 นาที
5. นำแป้งข้าวเจ้าไปผสมกับกะทิที่แยกไว้แต่งหน้า คนจนเข้ากันดีแล้วนำไปใส่ไมโครเวฟ อุ่นด้วยไฟอ่อนประมาณ 1 นาที
6. หลังจากห่อหมกนึ่งเสร็จ แต่งหน้าด้วยกะทิที่เตรียมไว้ และโรยหน้าด้วย ผักชี, ใบมะกรูดและพริกซอย นึ่งต่อไปอีก 3 นาที จึงนำไปจัดใส่จานและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

 สูตรอาหารไทย : พะแนงเนื้อ

          พะแนงเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยอีกเมนูหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย พะแนงสามารถหาทานได้ง่าย พบเป็นเมนูประจำตามร้านขายข้าวแกงทั่วไป ซึ่งอาจเปลี่ยน จากเนื้อ เป็นหมู หรือไก่บ้าง แต่เครื่องปรุงสำคัญคือน้ำพริกแกงพะแนง ซึ่งมีพริกแห้งเป็นส่วนผสม ทำให้สีของน้ำพริกออกแดง เวลาทำไม่ต้องใส่น้ำเยอะ พอให้ขลุกขลิก เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่น้ำพริกแกงพะแนง และกะทิที่ใช้ควรเป็นกะทิสด เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อร่อยยิ่งนัก

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* เนื้อวัว 400 กรัม (หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
* น้ำพริกแกงพะแนง 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
* กะทิ 150 กรัม
* น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* ใบโหระพา 10 ใบ
* พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด (หั่นตามแนวขวาง)
* ใบมะกรูด 3 ใบ (ซอยละิีเอียด)

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำเครื่องแกงไปผัดกับน้ำมันประมาณ 1 นาที จากนั้นจึงใส่กระทิลงไปและต้มต่อไปจนเดือด
2. ใส่เนื้อวัว แล้วจึงปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลา
3. เมื่อเนื้อสุกดีแล้ว จึงใส่ใบโหระพา, พริกและใบมะกรูด คนต่อไปอีกสักพัก ตักใส่ถ้วยและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

 สูตรอาหารไทย : แกงเผ็ดเป็ดย่าง

          เป็นเมนูอร่อยรสเลิศ ที่อาจจะไม่สามารถหาทานได้ง่ายๆ เนื่องจากเป็ดย่างที่มีราคาสูง ทำให้ไม่ค่อยได้พบในเมนู ร้านขายข้าวแกงปกติทั่วไป แต่ด้วยความนิยมในรสชาติที่กลมกล่อมของแกงกะทิกับสมุนไพร และเป็ดย่าง ทำให้ยังพอหาทานได้ตามภัตาคาร ร้านอาหาร รวมถึงงานพิเศษในโอกาสต่างๆเช่น ทำบุญบ้าน, ขึ้นบ้านใหม่, เป็นต้น สำหรับตัวเป็ดย่าง สามารถซื้อสำเร็จแล้วนำมาแกง หรือจะย่างเองก็ได้ แต่อาจจะยุ่งยากหน่อย แต่รับรองได้ว่าเมื่อทำเสร็จแล้ว เสริฟทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ จะลืมความเหนื่อยไปเลย

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* เป็ดย่าง 1 ตัว (เลาะเอากระดูกออก หั่นเป็นชิ้น พอดีคำ)
* สัปปะรด 5 ชิ้น (หั่นเป็นชิ้นเล็ก พอดีคำ)
* ใบมะกรูด 4 ใบ (ซอยหยาบๆ)
* น้ำตาล 1 ช้อนชา
* กระทิ 2 1/2 ถ้วยตวง
* มะเขือเทศเล็ก 8 ลูก
* เกลือ 1/2 ช้อนชา
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง (หรือน้ำซุปไก่)
* น้ำมันพืช 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. ตั้งน้ำมันบนกระทะจนร้อน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัด จากนั้นใส่กระทิ 3/4 ถ้วยตวงลงไปผัดด้วย (น้ำกระทิที่เหลือเ็ก็บไว้ใช้ในขั้นตอนต่อไป) ผัดจนกระทิกับเครื่องแกงเข้ากันทั่ว
2. ใส่เนื้อเป็ดที่หั่นไว้แล้ว และคนสักพักให้ทั่ว จากนั้นจึงเทส่วนผสมทั้งหมดย้ายไปยังหม้อที่ใหญ่กว่า นำหม้อใหญ่ไปตั้งไฟและเติมกระทิส่วนที่เหลือ, น้ำเปล่า (หรือน้ำซุปไก่), มะเขือเทศ, สัปปะรด, ใบมะกรูด, น้ำตาล, เกลือ และน้ำปลา
3. คนส่วนผสมในหม้อให้เข้ากัน และรอจนเดือดจึงปิดไฟ ตักใส่ถ้วยและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

 สูตรอาหารไทย : หอยลายผัดน้ำพริกเผา

          หอยลายผัดน้ำพริกเผา เป็นอาหารไทยเมนูหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมไม่แพ้เมนูอื่น รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เมื่อนำน้ำพริกเผา ไปผัดกับใบโหระพา ทำให้หอยลายผัดน้ำพริกเผาเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายๆ คน เคล็ดลับความอร่อยคือหอยลาย ต้องสด เวลาเลือกซื้อ ต้องเลือกหอยที่ฝายังปิดแน่น ฝาไม่อ้าออก ก่อนนำมาปรุงอาหารควรแช่น้ำทิ้งไว้ และล้าง หลายๆน้ำ เพื่อให้ขี้ดินและสิ่งสกปรกออกหมด

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

* หอยลาย 450 กรัม (ล้างทำความสะอาด)
* น้ำตาล 1 ช้อนชา
* น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
* ใบโหระพา 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
* พริก 4 เม็ด (หั่นเป็นเส้นตามแนวยาว)
* กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนชา
* น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำทีละขั้นตอน

1. นำกระทะใส่น้ำมันไปตั้งไฟปานกลาง ใส่กระเทียมและผัดจนเหลือง
2. ใส่หอยลายลงไปผัดจนสุก (เมื่อหอยลายสุก ฝาหอยจะอ้าออก) ปรุงรสด้วยน้ำปลา,น้ำตาล, และน้ำพริกเผา
3. ใส่ใบโหระพาและพริก ผัดต่อไปอีกประมาณ 10 วินาที จึงปิดไฟ ตักใส่จานและเสิรฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น